มรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น 日本の世界遺産

มรดกโลก(世界遺産)คือสถานที่ในโลกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ จัดโดย UNESCO โดยจะมีการคัดเลือกการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทุกปี ในประเทศญี่ปุ่นจนถึงปี ค.ศ. 2011 มีมรดกโลกทั้งสิ้น 16 แห่ง เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมทั้งหมด 12 แห่ง และเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ 4 แห่ง เรียงตามลำดับปีที่ลงทะเบียนดังต่อไปนี้

 

1. อาคารพุทธศาสนาเขตวัดโฮริวจิ(法隆寺)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1993 ตั้งอยู่ในจังหวัดนารา เป็นสถาปัตยกรรมไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยเจ้าชายโฌโตกุ ในสมัยนารา ปี 607 

 

2. ปราสาทฮิเมะจิ(姫路城)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1993 ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทฮิเมะจิเป็นศูนย์กลางอำนาจของเมืองปราสาทที่เริ่มสร้างสมัยมุโระมะจิ(ค.ศ. 1346)ใช้เป็นที่อยู่ของเหล่าขุนศึก เช่น ฮิเดะโยะฌิ เป็นต้น ตัวปราสาทมีสีขาวทำให้มีความงดงามเป็นที่พูดถึง หลังสมัยเอโดะ ได้ยกเลิกระบบซามูไรหรือขุนศึก ในระหว่างการปราบปรามได้มีการทำลายปราสาทไปจำนวนมาก อีกทั้งในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังมีการทิ้งระเบิด ทำให้ปราสาทที่สร้างมาแต่ดั้งเดิมที่คงเหลือสภาพอยู่มีเพียงปราสาทฮิเมะจิและปราสาทนาโงย่า ปราสาทฮิเมะจิยังคงความสมบูรณ์จึงถูกเสนอให้เป็นมรดกโลก 

 

3. เกาะยะขุฌิมะ(屋久島)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1993 ตั้งอยู่ในจังหวัดคะโงะฌิมะ พืชบางชนิด เช่น ต้นสนยะขุ ต้นไทรทองซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติที่นี่ และที่นี่ยังเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลอีกด้วย

 

4. เขตภูเขาชิระกะมิ(白神山地)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1993 ตั้งอยู่ในจังหวัดอะโอะโมะริ  มีลักษณะพิเศษคือเป็นป่าต้นบีชที่เก่าแก่มาตั้งแต่ปลายยุคน้ำแข็ง ต้นบีชเป็นไม้ผลัดใบ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง จึงมีความงดงามมาก

 

5. มรดกวัฒนธรรมกรุงเก่าเกียวโต(古都京都の文化財)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1994 ตั้งอยู่ในจังหวัดเกียวโต โดยรวบรวมศาลเจ้า วัด และพระตำหนักสำคัญในเกียวโต ซึ่งสร้างตลอดสมัยที่เกียวโตเป็นเมืองหลวงของประเทศ เช่น วัดโทจิ ซึ่งมีเจดีย์ 9 ชั้นที่นิยมใช้เป็นสัญลักษณ์ของเกียวโต วัดนิฌิฮงงันจิ(西本願寺)วัดคิโยะมิสุเดะระ(清水寺)ตำหนักเงิน(銀閣寺)ตำหนักทอง(金閣寺)ตำหนักนิโจ(二条城)เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมศาลเจ้าและวัดเบียวโดอิง ซึ่งอยู่ในเมืองอุจิข้าง ๆ ด้วย

 

6. หมู่บ้านฌิระงะวะโก โกะกะยะมะ(白川郷・五箇山の合掌造り集落)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1995 หมู่บ้านฌิระงะวะโกตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ และหมู่บ้านโกะกะยะมะตั้งอยู่ในจังหวัดโทะยะมะ หมู่บ้านทั้งสองมีวิธีการสร้างบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ เรียกว่า合掌造りคือการสร้างบ้านเป็นทรงสามเหลี่ยมเหมือนพนมมือ(合掌)หลังคาบ้านมุงด้วยหญ้ามิสแคนทัส(茅(かや))ภายในโครงบ้านไม่ใช้ตะปูตอกยึดเลย ใช้เพียงเชือกป่านมัดท่อนไม้ที่เป็นโครงบ้านให้ติดกัน การสร้างบ้านลักษณะนี้เดิมทีแพร่หลายในญี่ปุ่นสมัยก่อน เพราะชะน้ำฝนได้ดี ยิ่งเป็นเขตที่หิมะตกหนักเช่นสองหมู่บ้าน ก็มีประโยชน์ให้หลังคาไม่รับน้ำหนักหิมะที่ทับถมมากจนเกินไป บริเวณใต้หลังคาเป็นทางลมผ่าน สามารถเลี้ยงไหมได้ ซึ่งการเลี้ยงไหมนี้นิยมตั้งแต่สมัยเอโดะ  การสร้างบ้านแบบ合掌造りเดิมมีในหลายพื้นที่ แต่ความเจริญแบบตะวันตก และการสร้างเขื่อนต่าง ๆ ทำให้บ้านทรงนี้ถูกทำลายหายไปในที่สุด เหลือเพียงหมู่บ้านในเขต 2 เขตนี้ที่ยังมีการอนุรักษ์ให้คงอยู่ให้ลูกหลานได้เห็น

 

7. โดมระเบิดปรมาณู(原爆ドーム)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1996 ตั้งอยู่ในจังหวัดฮิโรชิมะ เป็นอนุสรณ์สถานให้รำลึกถึงการสูญเสียจากการใช้ระเบิดปรมาณูระเบิดทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลอง เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1945 ซึ่งเป็นจุดจบของสงครามโลกครั้งที่ 2  โดมแห่งนี้เดิมใช้เป็นหอแสดงสินค้าและหอศิลปะของเมือง เมื่อระเบิดปรมาณูลงเมืองฮิโรชิมะ ด้วยโครงเหล็กที่แข็งแรง ทำให้โดมแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างไม่กี่แห่งที่ยังเหลือซากให้เห็น

 

8. ศาลเจ้าอิทซุขุฌิมะ(厳島神社)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1996 ตั้งอยู่ในจังหวัดฮิโรชิมะ ศาลเจ้าอิทซุขุฌิมะมีลักษณะพิเศษคือ ตั้งอยู่บนเกาะมิยะจิมะ มีประตูทางเข้าศาลเจ้าอยู่กลางน้ำ สำหรับผู้มาเยือนทางเรือ สร้างโดยไทระ คิโยะโมะริ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในสมัยเฮอันตอนปลาย ภาพประตูเข้าศาลเจ้าที่อยู่กลางน้ำ เบื้องหลังของศาลเจ้าคือเกาะมิยะจิมะ ทำให้ชาวญี่ปุ่นถือว่า ทิวทัศน์เกาะมิยะจิมะเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น

 

9. มรดกวัฒนธรรมกรุงเก่านารา(古都奈良の文化財)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1998 ตั้งอยู่ในจังหวัดนารา แม้ว่าจะมีการลงทะเบียนวัดโฮริวจิเป็นมรดกโลกไปก่อนหน้าแล้ว แต่ยังมีวัดอีกหลายแห่งที่มีการบูรณะอย่างดี ทำให้มีการลงทะเบียนวัดเหล่านี้เพิ่ม  เช่น ศาลเจ้าคะซึกะ และวัดโทไดจิ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทซุ

 

10. วัดและศาลเจ้าเมืองนิกโก(日光の社寺)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1999 ตั้งอยู่ในจังหวัดโทะจิกิ เมืองนิกโกมีชื่อเสียงในฐานะเมืองตากอากาศมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เพราะเป็นเมืองที่โชกุนอิเอยาสุโปรดปรานและมีดำริให้ฝังร่างของตนไว้ที่นี่ โบราณสถานที่โดดเด่นคือ โทโฌงู(東照宮)ซึ่งเป็นตำหนักตากอากาศของโชกุนอิเอยาสุมีสีสันฉูดฉาด และใช้ทองคำประดับหลายแห่งเพื่อแสดงแสนยานุภาพของตน แตกต่างจากอาคารวัดวาของญี่ปุ่นปกติที่เน้นความเรียบง่าย

 

11. ปราสาทและโบราณสถานอาณาจักรริวกิว(琉球王国のグスク及び関連遺産群)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 2000 ตั้งอยู่ในจังหวัดโอกินาวะ จังหวัดโอกินาวะในสมัยอดีตคืออาณาจักรริวกิว(ค.ศ. 1429 – 1879)มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง มรดกโลกอาณาจักรริวกิวนั้นมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นปราสาท(グスク)และสุสานราชวงศ์ ปราสาทที่เด่นที่สุดคือ ปราสาทฌุริ ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจในสมัยโบราณ  มีประตูฌุเร(守礼門)เป็นสัญลักษณ์สำคัญ

 

12. เส้นทางจาริกแสวงบุญเขาคิอิ(紀伊山地)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 2004 พื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ นารา มิเอะ และวะกะยะมะ เส้นทางจาริกแสวงบุญนี้ ตั้งอยู่บนเขาคิอิ ประกอบด้วยวัดพุทธและศาลเจ้าชินโตที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน และเป็นขนบในการสร้างวัดและศาลเจ้าในสมัยต่อ ๆ มา

 

13. ฌิเระโตะโกะ(知床)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 2005 ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด เป็นแหล่งระบบนิเวศน์เมืองหนาวของญี่ปุ่น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายาก เช่น นกฮูก สิงโตทะเล ปลาวาฬ หมีสีน้ำตาล เป็นต้น นอกจากนี้ ฌิเระโตะโกะยังเป็นจุดที่อยู่ใต้สุดของโลกที่ภูเขาน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือมาถึง

 

14.เหมืองเงินอิวะมิ(石見銀山遺跡)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 2007 ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมะเนะ เป็นเหมืองขุดแร่เงินขนาดใหญ่ที่ขุดจนถึงช่วงสมัยเอโดะและปิดเหมืองไปในที่สุด เนื่องจากแร่เงินที่ใช้หมุนเวียนทั่วโลกราว 1 ใน 3 มาจากเหมืองแห่งนี้ นอกจากเหมืองที่มีสภาพคืนสู่ธรรมชาติ ยังมีอาคารใหญ่น้อยซึ่งเกิดขึ้นในสมัยที่การขุดแร่เฟื่องฟูหลงเหลือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอุตสาหกรรมแห่งแรกของญี่ปุ่น

 

15. ฮิระอิสุมิ(平泉)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 2011 ตั้งอยู่ในจังหวัดอิวะเตะ ฮิระอิสุมิเป็นเมืองที่ตระกูลฟุจิวะระ(藤原)มาสร้างหลักแหล่ง และมีการสร้างวัดนิกายสุขาวดี(浄土)แต่ภายหลังเมื่อตระกูลฟุจิวะระล่มสลาย โบราณสถานต่าง ๆ ก็ถูกทิ้งร้าง จนมีการบูรณะในภายหลัง

 

16. หมู่เกาะโอะงะซะวะระ(小笠原諸島)

ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 2011 เป็นหมู่เกาะทางตอนใต้ของเกาะฮอนชู สังกัดจังหวัดโตเกียว ที่มีระบบนิเวศน์สมบูรณ์ เป็นที่อยู่ของสัตว์บก เช่น แพะป่า และสัตว์ทะเล เช่น ปลาวาฬ และปลาโลมา สัตว์ที่พบมักมีวิวัฒนาการต่างจากเดิม จึงถูกเปรียบให้เป็นเกาะกาลาปากอสแห่งทะเลตะวันออก

 

อัษฎายุทธ ชูศรี

Read more